1 Followers
25 Following
z2chrjv648

z2chrjv648

12 เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำ ข่าวกีฬาวันนี้

"""ได้แชมป์สมาคมโลก! ฟีร์มีโนซัดช่วงต่อเวลาพาลิเวอร์พูลเชือดฟลาเมงเริด 1-0

ลิเวอร์พูลจำเป็นที่จะต้องสู้จวบจนกระทั่งช่วงทดเวลากว่าจะมาได้ประตูชัยจากดาวยิงบราสิเลียน และก็ซิวแชมป์คลับเวิลด์คัพไปท้ายที่สุด

บอลสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ คลับ เวิลด์คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศนัดแนะนี้เป็นการเจอะกันระหว่าง ลิเวอร์พูล รวมทั้ง ฟลาเมงหรูหรา ณ สนามติดอยู่ลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดี้ยม

ฝั่งลิเวอร์พูล วันนี้มาในแผน 4-3-3 โดยวางโมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน รวมทั้งซาดิโอ มาเน เป็นสามประสานในแนวรุก

ทางด้านฟลาเมงหรูหรา เลือกจัดกองทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยมีกาเบรียล บาร์โบซา หัวหอกตัวยืมจากอินเตอร์ มิลาน เป็นความหวังในดินแดนหน้า

ตอน 45 นาทีแรก เป็นทางด้านกรุ๊ปดังจากบราซิลที่ทำเป็นเหนือกว่าทั้งการครอบครองบอล และจากนั้นก็หนทางทำคะแนน แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะส่งบอลไปกองตูดตาข่ายได้ ทำให้จบครึ่งแรกโดยที่สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ตอนช่วงหลัง รูปเกมก็ค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน แล้วก็เกมทำท่าว่าจะจบ 90 นาทีด้วยผลเสมอแบบไม่มีอะไร

ตราบจนกระทั่งนาทีที่ 90+1 หงส์แดงก็แทบจะมาได้จุดลูกโทษจากจังหวะที่มาเนโดนเตะล้มบริเวณก้ำกึ่งจะเป็นในกรอบจุดโทษ ก่อนจะผู้ตัดสินจะขอเช็ค VAR และก็ให้เป็นก็แค่ฟรีคิก จบ 90 นาที ยังเท่ากัน 0-0 ทำให้ควรต้องเลื่อนเวลาพิเศษเตะกันต่อ

ช่วงต่อเวลาพิเศษ หงส์แดงก็โหมบุกอย่างมากเพื่อหวังจะเบิกสกอร์แรกให้ได้ และจากนั้นก็มาทำสำเร็จในนาทีที่ 99 จากจังหวะที่มาเน่จ่ายให้ฟีร์มีโนสัมผัสหลบแนวรับฟลาเมงโก้แล้วซัดเข้าไปไม่พลาด ส่งให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

ในระหว่างที่เหลือไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ ฟลาเมงเก๋ 1-0 ครอบครองแชมป์สมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ คลับ เวิลด์คัพ ไปครอบครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชมรม

ไม่ยอมแพ้ลุ้นแชมป์! เรือใบโดนก่อนรัวคืนสุนัขจิ้งจอก 3-1

ทัพเรือใบสีฟ้าที่โดนนำไปก่อนกลับเหตุรัวกลับคืนมาเอาชนะหมาจิ้งจอกไทยไปได้ 3-1 ไล่จี๋เหลือแต้มเดียว

พรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์รายสัปดาห์ที่ 18 เจ้าของบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรุ๊ปชั้น 3 เกมนี้มาในระบบ 4-3-3 เอแดร์ชอน ลงเฝ้าเสา แผงแบ็คโฟร์ ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นันดินโญ แล้วก็ เบนฌาแม็ง เมนดี้ แผงมิดฟิลด์ เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน รวมถึง กางร์ที่นาร์โด้ สิลวา แนวรุก ริยาด ภูตผีปีศาจเรซ, กาเบรียล เชซุส รวมทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง

ทางฝั่งเลสเตอร์ สิตี้ รองหัวหน้าฝูงจัดกองทัพในระบบ 4-1-4-1 แคสเปอร์ ชไมเคิล ลงเฝ้าเสา แนวรับ ริคาร์โด้ เปเรย์รา, จอนนี อีแวนส์, คักลาร์ โซยุยงนคู และ เบน ชิลเวลล์ ดินแดนกลาง วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้, ยูริ ต่อว่าเลอม็องส์ แล้วก็ เจมส์ แมดดิสัน แนวรุก อโยเซ เปเรซ และก็ ฮาร์วีย์ บรานส์ ทำเกมขอบเส้นโดยมี เจมี วาร์ดี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า

เจ้าของบ้านได้ลุ้นในนาที 13 จากจังหวะที่ ริยาด ปีศาจร้ายเรซ เก็บบอลสุดเส้นฝั่งขวาก่อนเชือดเข้าตรงกลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้กดด้วยขวา บอลพุ่งเข้าชนเสาแรกออกไป

แมนฯสิตี้ได้ลุ้นอีกรอบนาที 15 ริยาด ม่าห์เรซ ได้บอลก่อนเลี้ยงจี๋เข้ากรอบจุดโทษก่อนหาจังหวะไหลให้ กาเบรียล เชซุส ตั้งเท้ายิงแต่บอลค่อยทำให้ แคสปอร์ ชไมเคิล ปัดไว้ได้ก่อนโดนสกัดออกไป

กรุ๊ปยอดเยี่ยมมาได้ประตูขึ้นนำนาที 22 จากจังหวะสวนกลับ ฮาร์วีย์ บรานส์ ดีดไซด์ก้อยให้ เจมี วาร์ดี้ แซง แฟร์นันดินโญ ก่อนสปีดเข้าจุดโทษแล้วยกบอลหนี เอแดร์ชอน เข้าประตู เลสเตอร์ ออกนำ 1-0

เลสเตอร์ แทบได้ประตูลำดับที่สองนาที 27 จากจังหวะสวนกลับ เจมส์ แมดดิสัน ดีดไซด์ก้อยให้ เจมี วาร์ดี้ หลุดลำพังเข้าจุดโทษก่อนโดนบีบให้เล่นมุมแคบ เลยตกลงใจยิงหากแม้บอลหลุดกรอบออกไป

เจ้าของบ้านได้ประตูตีเสมอนาที 30 เบนฌาแม็ง เมนดี้ วางบอลยาวให้ ริยาด ยักษ์เรซ เก็บบอลขอบเส้นก่อนลากตัดเข้าในมากดด้วยซ้าย บอลลื่นบล็อค คักลาร์ โซยุยงนคู แปลงปากทางเข้าประตู หมดสิทธิ์สำหรับ แคสเปอร์ ชไมเคิล แมนฯสิตี้ ตีเสมอ 1-1

วิถีทางอีกรอบของเจ้าถิ่นนาที 39 จากลูกยิงไกลนอกกรอบจุดลูกโทษของ เควิน เดอ บรอยน์ ได้กดด้วยขวาเหน่งๆถึงแม้ยังไม่ผ่านเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิล

เจ้าของบ้านได้จุดลูกโทษนาที 41 จากจังหวะที่ ริคาร์โด้ เปเรย์รา แทง ราฮีม สเตอร์ลิง ล้มลงในกรอบจุดลูกโทษ ไมค์ ดีน ชรี้เป็นจุดลูกโทษทันที รวมทั้งเป็น อิลคาย กุนโดกัน ฆ่าไม่พลาด แมนฯสิตี้นำ 2-1

ช่วงหลัง เรือใบมาได้ประตูลำดับที่สามนาที 69 ไคล์ วอล์คเกอร์ ไหลบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลหลุดมาด้านขวาก่อนเฉือนไปเสาสองให้ กาเบรียล เชซุส ชาร์จจ่อๆไม่เหลือ แมนฯสิตี้นำ 3-1

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เลสเตอร์ สิตี้ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 38 คะแนนไล่จักจี้เลสเตอร์ สิตี้ที่มี 39 คะแนน ยังรักษาความหวังในการลุ้นแชมป์ต่อไป

หล่อส่งท้ายปี! ลูกาเรายิง 2 จ่าย 1 อินเตอร์อัดเจนัว 4-0

ศูนย์หน้าชาวเบลเยียมยิง 2 จ่าย 1 พางูใหญ่เก็บชัยเหนือรอสโซบลูส่งท้ายปี 2019

กัลโช เซเรีย อา 2019-2020 ประจำโปรแกรมอาทิตย์ที่ 17 เป็นการพบกันระหว่าง อินเตอร์ มิลาน เปิดรังเหย้า จูเซ็ปกระเป๋า เมียซซา ต้อนรับการมาเยี่ยมของ เจนัว

อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ปรึกษาเจ้าของบ้าน เลือกจัดกองทัพมาในระบบ 3-5-2 ฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่คู่กองหน้าอย่าง โรเมลู ลูกาพวกเรา ซึ่งจะติดต่อประสานงานร่วมกับ เซบาสเตียโน เอสโปสิโต้

ด้านกลุ่มยอดเยี่ยมของ ธิอาโก้ ม็อตต้า อดีตแข้งงูใหญ่ชุดสามแชมป์เมื่อปี 2010 มาในแผน 3-5-2 ด้วยเหมือนกัน โดยใช้แนวรุกเป็น อันเดรีย ปินามอนว่ากล่าว จับคู่กับ อันโตนิโอ ซานาเบรีย

เริ่มเกมมาเป็นฝั่งของอินเตอร์ซึ่งเตรียมการพังทลายประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 31 จากจังหวะที่ อันโตนิโอ คันเดรวา เปิดบอลทางกราบขวาเข้าจุดลูกโทษให้ ลูกาฉัน โหม่งตุงตาข่าย ส่งให้งูใหญ่ออกนำ 1-0

ถัดมาแค่นาทีเดียวเท่านั้น เนรัซซูรีมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีกอย่างรวดเร็ว ข่าวกีฬาวันนี้ จากจังหวะที่ ลูกาพวกเรา ไหลบอลให้ โรกางร์โต้ กายาร์ดินี ซัดด้วยขวาไปโดน อังเดร รามอง ผู้เฝ้าประตูเจนัวพุ่งปัดแล้วลูกก็ปลิ้นเข้าไป ช่วยทำให้เจ้าของบ้านหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจะ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ช่วงหลังอินเตอร์มาได้จุดลูกโทษ ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ กายาร์ดินี ไปโดน เควิน อาฉันเดโล แทงสกัดล้มลงไป ซึ่งกองกลางชาวโคลอมเบียของก็โดนใบเหลืองไปด้วย ก่อนที่จะเป็น เอสโปสิโต้ รับหน้าที่ฆ่าไม่พลาด ส่งให้งูใหญ่นำห่าง 3-0

ถัดมานาทีที่ 71 เนรัซซูรีมาบวกลูกสี่เพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ คันเดรวา ไหลบอลให้ ลูกาเรา โชว์ลีลาสับขาหลอกแนวรับคอยสโซบลูก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายอย่างเฉียบคม ช่วยให้เจ้าของบ้านทิ้งห่าง 4-0

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่ม ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นอินเตอร์ มิลานซ้ำๆไปขาดลอยถึง 4-0 เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้ม พอๆกับหัวหน้าฝูงยูเวนตุส แม้กระนั้นเฮดทูเฮดด้อยกว่า ทำให้ยังรั้งที่ 2 ส่วนเจัวจมอยู่ชั้น 19 รองท้ายที่สุดของงตาราง มี 11 คะแนนดังเดิม"""